หลวงพ่อโสธร พิมพ์สองหน้า ปี2497 บล็อก5757 วงแหวนเต็ม(นิยมสุด)
วัตถุมงคลคณาจารย์ รุ่นต่างๆ
หลวงพ่อโสธร พิมพ์สองหน้า ปี2497 บล็อก5757 วงแหวนเต็ม ของ คุณวิทย์ วัดอรุณ
หลวงพ่อโสธร พิมพ์สองหน้า ปี2497 บล็อก5757 วงแหวนเต็ม(นิยมสุด)
ในปี พ.ศ.2497 เป็นปีที่มีพิธีพุทธาภิเษกพระหลวงพ่อโสธรใหญ่ เนื่องด้วยในปี พ.ศ. 2497 คณะกรรมการดำเนินการสร้างพระอุโบสถวัดโสธร และปรับปรุงเสนาสนะวัดโสธร มีความประสงค์ที่จะจัดสร้างวัตถุมงคลรูปหลวงพ่อโสธรสำหรับตั้งบูชา และองค์เล็กสำหรับติดตัวเพื่อสมนาคุณแก่ผู้ที่บริจาคทรัพย์สมทบทุนการก่อสร้างอุโบสถและทำพิธีพุทธภิเษก พระเครื่องพระพุทธโสธร วัดพระพุทธโสธร ที่พระอุโบสถหลวงพ่อโสธร ในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2497
หลวงพ่อโสธร พิมพ์สองหน้า ปี2497 บล็อก5757 วงแหวนเต็ม ของ คุณวิทย์ วัดอรุณ
วัตถุมงคลที่สร้างขึ้นมีด้วยกันหลายแบบดังนี้
1.พระรูปหลวงพ่อโสธรขนาดเล็กสองหน้า องค์ละ 10 บาท 2. แหวนเงินถมยา รูปหลวงพ่อโสธร วงละ 15 บาท 3.แหวนเงินลงยาสีรูปหลวงพ่อโสธร วงละ 10 บาท 4.รูปถ่ายหลวงพ่อโสธรติดการ์ด แผ่นละ 5 บาท 5.ด้ายเหลืองผูกข้อมือ เส้นละ 10 ส.ต. 6.ตะกรุดเงินด้ายเหลืองผูกข้อมือ เส้นละ 25 ส.ต. 7.ตะกรุดเงินด้ายเหลืองผูกคอ 50 ส.ต. 8.ธงนางกวัก ผืนละ 3 บาท 9.ธงแม่โพสพผืนละ 3 บาท 10.พระบูชา 5 นิ้ว 11.รูปหลวงพ่อโสธร แบบแผ่นปั๊ม รูปละ 50 บาท 12.พระบูชา 5 นิ้วรูปหลวงพ่อโสธร ขัดเงารูปละ 350 บาท 13.รูปหล่อหลวงพ่อโสธรน้อยเนื้อทองเหลือง สร้างไว้แจกกรรมการ
หลวงพ่อโสธร พิมพ์สองหน้า ปี2497 บล็อก5757 วงแหวนเต็ม ของ คุณวิทย์ วัดอรุณ
การประกอบพิธีมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2497 ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกและนั่งปรกตามประเพณีนิยม ณ พระอุโบสถวัดโสธร พระเกจิอาจารย์ที่นิมนต์มาพิเศษก็คือ หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง นนทบุรี เจ้าคุณราชโมฬี วัดระฆังฯ หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย สุพรรณบุรี หลวงพ่อหลาย วัดราษฎร์บำรุง ชลบุรี หลวงพ่อคลื้น วัดสังโฆฯ สุพรรณ บุรี หลวงพ่อเคน วัดเขาอีโต้ ปราจีนบุรี หลวงพ่ออิ่ม วัดไผ่ล้อม จันทบุรี หลวงพ่อฮวด วัดบางกระบือ สมุทรสาคร หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวนาราม นครปฐม หลวงพ่อหอม วัดชากหมากเรไร ระยอง พระครูสังฆรักษ์ วัดสัมพันธวงศ์ กทม. พระอาจารย์อั้น วัดพระญาติการาม อยุธยา
หลวงพ่อโสธร พิมพ์สองหน้า ปี2497 บล็อก5757 วงแหวนเต็ม ของ คุณวิทย์ วัดอรุณ
ระหว่างทำพิธีได้เกิดศุภนิมิตดังปรากฎบันทึกนิมิตของพระอาจารย์ที่นั่งปรกบริกรรมในพิธีหลายองค์คือ
องค์ที่ 1 นิมิตหลวงพ่อเเฉ่ง วัดบางพัง นนทบุรี มีเเสงสว่างเหมือนพระจันทร์เพ็ญ พุ่งออกจากหลวงพ่อโสธร มาหมุนรอบพระเครื่องรางที่ปลุกเสก องค์ที่ 2 นิมิตเจ้าคุณราชโมฬี วัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี มีสมภารองค์เก่าซึ่งเป็นพระผู้เฒ่า ห่มผ้าคล้ำมาทำเป็นประพรมน้ำมนต์ พระเครื่องรางของขลังรอบบริเวณปลุกเสก องค์ที่ 3 นิมิตหลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา มีเเสงสว่างดังสีรุ้งออกจากหลวงพ่อโสธรเเล้วมาปรากฎสว่างรอบบริเวณที่ปลุกเสก องค์ที่ 4 หลวงพ่อเเต้ม วัดพระลอย สุพรรณบุรี มีสีขาวผ่านไป เเล้วมีสีเหลืองผ่านไปอีกเเล้งมีสีเเดงออกไปจากองค์หลวงพ่อเข้าสู่พระเครื่องรางต่างๆ
หลวงพ่อโสธร พิมพ์สองหน้า ปี2497 บล็อก5757 วงแหวนเต็ม ของ คุณวิทย์ วัดอรุณ
องค์ที่ 5 นิมิตหลวงพ่อหลาย วัดราษฎร์บำรุง ชลบุรี มีสีขาวพุ่งขึ้นจากบริเวณที่ปลุกเสก เเล้วเเตกออกกระจายเป็นรัศมีสีรุ้งตลอดทั่วเเปดทิศ เเล้วมีนิมิตรวมเป็นสีขาวเช่นเดิมกลับเข้าสู่พระเครื่องราง องค์ที่ 6 นิมิตหลวงพ่อคลื้น วัดสังโฆฯ สุพรรณบุรี เห็น นะปะถะหมัง เเปดภาค เเปดทิศ มาประสิทธิดี ปรากฎอยู่ ณ.สถานปลุกเสกเครื่องราง องค์ที่ 7 นิมิตหลวงพ่อเคน วัดเขาอีโต้ ปราจีนบุรี ปรากฎขนลุกขนพอง เกิดอัศจรรย์ ทันใดนั้นเห็นเป็นพระเครื่องรางลอยสู่อากาศ เเล้วมีรัศมีออกจากพระเครื่องรางนั้น องค์ที่ 8 หลวงพ่ออิ่ม วัดไผ่ล้อม จันทรบุรี มีเเสงสว่างเกิดขึ้นเฉพาะพระพักตร์ ของหลวงพ่อโสธร เเล้วพุ่งสู่บริเวณพระเครื่องราง
หลวงพ่อโสธร พิมพ์สองหน้า ปี2497 บล็อก5757 วงแหวนเต็ม ของ คุณวิทย์ วัดอรุณ
องค์ที่ 9 นิมิตหลวงพ่อฮวด วัดบางกระบือ สมุทรสาคร มีรัศมีเป็นกงจักรพุ่งออกจากองค์หลวงพ่อโสธร ครอบลงบนพระเครื่องราง องค์ที่ 10 นิมิตหลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวนาราม นครปฐม มีความอิ่มใจเกิดขึ้น อย่างไม่เคยเห็นในที่อื่นเลยที่เคยทำมา องค์ที่ 11 นิมิตหลวงพ่อหอม วัดชากหมากเรไร ระยอง น่ายินดี มีรัศมีพุ่งไปรอบๆ บริเวณที่ปลุกเสกรูปหลวงพ่อโสธร องค์ที่ 12 นิมิตพระครูสังฆรักษ์ วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพ เป็นที่พอใจในการปลุกเสกพระเครื่องราง หลวงพ่อโสธร องค์ที่ 13 นิมิตหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติการาม อยุธยา มีปิติเกิดขึ้นในจิตใจ น่าปลื้มใจ
หลวงพ่อโสธร พิมพ์สองหน้า ปี2497 บล็อก5757 วงแหวนเต็ม ของ คุณวิทย์ วัดอรุณ
ด้วยเหตุผลที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นจากนิมิตของพระอาจารย์เหล่านี้สามารถนำมาร้อยเรียงเป็นใจความได้ว่า พระบารมีขององค์หลวงพ่อโสธรเเละเทวดาทั้งหลายที่มาถวายการอารักขาองค์หลวงพ่อโสธร ได้มาเเผ่พลังพระพุทธานุภาพเเละร่วมรับรู้ในพิธีการปลุกเสกอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ หลวงพ่อพุทธโสธรเป็นพระพุทธที่มีประชาชนนับถือมากที่สุดในเเผ่น
คาถาบูชาหลวงพ่อโสธร บทสวดหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร
ก่อนจะภาวนา คาถาหลวงพ่อโสธร ต้องบูชาพระรัตนตรัยเสียก่อน แล้วจึงกล่าวคำบูชาเฉพาะ คาถาบูชาหลวงพ่อโสธร ระลึกถึงองค์ท่านโดยมองพระพุทธรูปหลวงพ่อพระพุทธโสธร ภาพถ่ายหรือพระเครื่องที่มี ถ้าไม่มีให้กำหนดภาพของท่านขึ้นในจิตของเราเป็นพุทธานุสสติกรรมฐานไปในตัว
กาเยนะ วาจายะ เจตสา วา โสธะรัง นามะ
อิทธิปะฏิหาริกะรัง พุทธะรูปัง อะหัง วันทามิ สัพพะโสฯ
(ท่อง 3 จบ)
คาถาหลวงพ่อโสธร
ท่องนะโม 3 จบ แล้วกล่าวคำบูชา
นะ ทรงฟ้า โม ทรงดิน พุทธ ทรงสินธุ์ ธา ทรงสมุทร ยะ
ทรงอากาศ พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด
สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูภัยพาลวินาศสันติ
นะกาโร กุกกุสันโธ สิโรมัชเฌ โมกาโร โกนาคะมะโน
นานาจิตเต พุทธกาโร กัสสะโป พุทโธ จะ ทะเวเนเต ธา กาโร
ศรีศากกะยะมุนี โคตะโม ยะกันเน ยะกาโร อะริยะ
เมตตรัยโย ชิวหาทีเต ปัญจะพุทธา นะมามิหัง
พุทธะบูชา มะหาเตชะวันโต ธัมมะบูชา มะหาปัญโญ
สังฆะบูชา มะหาโภคะวะโห อะระหังพุทโธ อิติปิโสภะคะวา นะมามิหัง
คาถาหลวงพ่อโสธร (วัดโสธรวรารามวรวิหาร อำเภอแปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา)
คาถาบูชาหลวงพ่อโสธร แบบย่อ
(ท่องนะโม 3 จบ) อิติ อิติ อิติ โสธโร นะโมพุทธายะ ยะธาพุทธโมนะ
ว่าคาถานี้ทุกวันจะปลอดภัย ป้องกันอันตรายทั้งปวง ร่มเย็นเป็นสุขตลอดชีวิต อีกทั้งมีเมตตา มหานิยม ซื้อง่ายขายคล่อง นำมาซึ่งโภคทรัพย์
ประวัติหลวงพ่อโสธร หรือ หลวงพ่อพระพุทธโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา
หลวงพ่อโสธร หรือ หลวงพ่อพระพุทธโสธร เป็นพระพุทธรูปสำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทรา ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ข้อมูลจากการตรวจสอบภายในหลวงพ่อโสธรโดยกรมศิลปากร พบว่า หลวงพ่อโสธรประกอบขึ้นจากหินทรายแปดชิ้น แล้วพอกปูนทับเป็นองค์ จากวัสดุที่ใช้และพุทธศิลป์ พบว่าเป็นศิลปะอยุธยาตอนต้น (ต่างจากตำนานที่เป็นพระเหนือ)
พุทธลักษณะ
หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ คือมีพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิราบ พระชงฆ์ขวาทับพระชงฆ์ซ้าย พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้ายวางซ้อนกันอยู่บนพระเพลา มีส่วนสูง 6 ฟุต 7 นิ้ว พระเพลากว้าง 5 ฟุต 6 นิ้ว ปัจจุบันประดิษฐาน อยู่ในพระอุโบสถหลวงวัดโสธรวราราม จังหวัดฉะเชิงเทรา
ตำนาน
ตำนานหลวงพ่อโสธรนั้น ตำนานไม่ได้กล่าวไว้ว่าใครเป็นผู้สร้างหรือสร้างเมื่อใด ทราบตามที่เล่าต่อๆ กันมาแต่เพียงว่า ในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือของไทย มีพระภิกษุสามองค์พี่น้อง เรียนพระธรรมวินัยแตกฉานแล้วก็จำแลงกายเป็นพระพุทธรูป เมื่อมาถึงบริเวณหนึ่งก็ปรากฏองค์ขึ้น ชาวบ้านบริเวณนั้นพบเข้าก็พากันเอาเชือกมนิลามาฉุดขึ้น แต่ก็เอาขึ้นมาไม่ได้เพราะเชือกขาด ก่อนที่พระทั้งสามองค์จะจมหายไปบริเวณที่พระทั้งสามองค์ลอยทวนน้ำหนีนั้นเรียกว่า สามพระทวน ต่อมาได้เพี้ยนและเรียกว่า สัมปทวน อำเภอเมืองฉะเชิงเทราจนทุกวันนี้
ต่อมาได้มาผุดขึ้นที่คลองคุ้งให้ชาวบ้านแถวนั้นเห็นอีก ชาวบ้านก็พยายามฉุดขึ้นฝั่งแต่ไม่สำเร็จอีก สถานที่นั้นเรียกว่า บางพระ มาจนทุกวันนี้ แต่นั้นมาพระพุทธรูปทั้งสามองค์ก็ได้สำแดงอภินิหารในคลองเล็กๆ ตรงข้ามกองพันทหารช่างที่ 2 ฉะเชิงเทรา บริเวณนั้นเรียกว่า แหลมลอยวน คลองนั้นได้นามว่า คลองสองพี่น้อง ภายหลังก็เงียบไป
จวบจนองค์หนึ่งได้ลอยไปจนถึงแม่น้ำแม่กลอง และไปปรากฏขึ้นที่สมุทรสงคราม ชาวประมงได้พร้อมใจกันอาราธนาขึ้นไปประดิษฐานไว้ที่วัดบ้านแหลมหรือวัดเพชรสมุทรวรวิหาร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เป็นที่นับถือของพุทธศาสนิกชนชาวสมุทรสงคราม เรียกกันว่า หลวงพ่อบ้านแหลม มาจนทุกวันนี้
องค์ที่สองได้ลอยวนไปวนมาและมาผุดขึ้นหน้า วัดหงษ์ เล่ากันว่า ที่วัดนี้เดิมมีเสาใหญ่มีหงษ์ทำด้วยทองเหลืองอยู่บนยอดเสานั้น จึงได้ชื่อว่าวัดหงษ์ ต่อมาหงษ์ที่ยอดเสาหักตกลงมาเสียชำรุด ทางวัดจึงเอาธงไปติดไว้ที่ยอดเสาแทนรูปหงษ์ จึงได้ชื่อว่าวัดเสาธง แล้วต่อมาก็เกิดมีพายุพัดเสานี้หักลงส่วนหนึ่ง จึงได้ชื่อว่าวัดเสาทอน และต่อมาชื่อนี้ได้กลายไปเป็นวัดโสธร
ประชาชนพลเมืองจำนวนมากได้พากันหลั่งไหลมาอาราธนาฉุดขึ้นฝั่งแต่ก็ไม่สำเร็จ ขณะนั้นมีอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษผู้รู้คนหนึ่งสำเร็จไสยศาสตร์หรือเทพไสยรู้หลักและวิธีอาราธนา จึงได้ทำพิธีปลูกศาลเพียงตาบวงสรวง กล่าวคำอัญเชิญชุมนุมเทวดาอาราธนา และได้ใช้สายสิญจน์คล้องที่พระหัตถ์ของพระพุทธรูปก่อนจะค่อยฉุดลากขึ้นมาบนฝั่ง พระพุทธรูปจึงเสด็จขึ้นมาบนฝั่งเป็นที่ปิติยินดีเป็นอย่างยิ่งของชาวเมือง จึงได้พร้อมใจกันอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ที่ในพระวิหารวัดโสธร และเรียกนามว่า พระพุทธโสธร หรือ หลวงพ่อโสธร ตั้งแต่นั้นมา
ส่วนองค์สุดท้ายได้ลอยไปอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาประชาชนละแวกนั้นก็หลั่งไหลมาอาราธนาขึ้นฝั่งฉุดขึ้นเป็นการใหญ่แต่ก็ฉุดขึ้นไม่ได้ เล่ากันว่ามีประชาชนพากันมาฉุดนับได้ถึงสามแสนคน จึงเรียกสถานที่นั้นว่า สามแสน ภายหลังจึงเพี้ยนมาเป็น สามเสน และเรียกกันอยู่ทุกวันนี้ จากนั้นพระพุทธรูปองค์นี้ก็ลอยไปผุดขึ้นที่คลองสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ ประชาชนจึงได้ได้อาราธนาขึ้นไปประดิษฐานไว้ที่วัดพลับพลาชัยชนะสงครามหรือวัดบางพลีใหญ่ในตราบจนทุกวันนี้ เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มากอีกรูปหนึ่งของเมืองไทย คือ หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน
บางตำนานได้เล่าว่ามีพระพุทธรูปพี่น้องอยู่ห้าองค์ อีกสององค์คือ หลวงพ่อไร่ขิง วัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม และ หลวงพ่อ(ทอง)เขาตะเครา วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี และบางพื้นที่เล่าเป็นพระพุทธรูปพี่น้องหกองค์ โดยเพิ่ม หลวงปู่หิน วัดอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี ด้วย
ประวัติศาสตร์
หลวงพ่อโสธรน่าจะประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรฯมาตั้งแต่ช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา ในราวรัชกาลสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่2(เจ้าสามพระยา) หรือประมาณ 500-600 ปีมาแล้ว เป็นพระพุทธรูปหินทรายประกอบสมัยอยุธยาตอนต้น(อู่ทองรุ่นที่ 2 ) ประทับบนพุทธบังลังก์ 4 ชั้น ปูลาดด้วยผ้าทิพย์ อันเป็นรูปแบบที่นิยมกันมากในช่วงอยุธยาตอนปลาย
รวมถึงพระพุทธรูปบริวารอีก10 องค์ที่ประดิษฐานรวมกันบนชุกชี ก็มีพุทธลักษณะแบบอยุธยาเช่นเดียวกัน โดยจำนวน 2 ใน 10 องค์นั้นเป็นพระพุทธรูปปางนาคปรก สร้างขึ้นจากไม้มงคล มีพุทธลักษณะค่อนมาทางอยุธยาตอนปลาย ต่างจากพระพุทธรูปบริวารอีก 8 องค์ที่สร้างขึ้นจากหินทรายซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในช่วงอยุธยาตอนต้น
ทำให้สันนิษฐานได้ว่าวัดโสธรฯและองค์หลวงพ่อโสธรน่าจะตั้งอยู่บริเวณบ้านโสธรนี้มาเป็นเวลาช้านานและมีการบูรณะปฏิสังขรณ์ในยุคสมัยต่อมา เดิมที วัดนี้ก็ชื่อโสธร ตามชื่อคลองโสธร มานานแล้ว ไม่มีหลักฐานที่บอกว่าชื่อ วัดหงษ์ เพราะ เสาหงษ์หัก เลยชื่อ เสาทอน เพี้ยนมาเป็นโสธร ตามตำนานหลวงพ่อโสธร นิราศฉะเชิงเทราและโคลงนิราศปราจีนบุรี ที่แต่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อกวีเดินทางผ่านบ้านโสธร ก็กล่าวถึงเพียงวัดโสธรเท่านั้น ไม่ได้กล่าวถึงตำนานหลวงพ่อโสธรเลย
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. 2416 พระยาวิเศษฤๅไชย(ช้าง) เจ้าเมืองฉะเชิงเทรา ได้สร้างพระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร และสร้างถนนดินจากหน้าเมืองมาวัดโสธร 26 เส้น นางมีภรรยาได้สร้างศาลาและขุดสระกึ่งกลางถนน สันนิฐานว่าการบูรณะครั้งนั้น ได้พอกปูนปั้นหลวงพ่อโสธรทำให้กลายเป็นพุทธศิลป์ล้านช้าง โดยกลุ่มช่างที่บูรณะมาจากเมืองพนมสารคาม หลังจากนั้นก็ได้ใช้พระอุโบสถเป็นที่ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา
ส่วนตำนานหลวงพ่อโสธรลอยน้ำมานั้น สันนิฐานว่ามาจากกลุ่มชาวมอญแถววัดโสธรที่นำตำนานพระลอยน้ำจากพระราชพงศาวดารเหนือ มาอธิบายประวัติหลวงพ่อโสธร
พระอุโบสถหลังใหม่
แต่เดิม หลวงพ่อพุทธโสธรประทับอยู่ในโบสถ์หลังเก่าที่มีขนาดเล็กซึ่งสร้างใหม่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมกับพระพุทธรูปองค์อื่นๆอีก 18 องค์ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2509 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จราชดำเนินมาที่วัดแห่งนี้ มีพระราชปรารภเรื่องความคับแคบของพระอุโบสถเดิม พระจิรปุณโญ (ด. เจียม กุลละวณิชย์) อดีตเจ้าอาวาสจึงได้รวบรวมเงินบริจาคเพื่อจัดซื้อที่ดินสำหรับสร้างพระอุโบสถหลังใหม่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานการสร้าง และทรงเป็นผู้กำกับดูแลงานสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนิน ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อ พ.ศ. 2531 และทรงประกอบพิธียกยอดฉัตรทองคำ น้ำหนัก 77 กิโลกรัม ประดิษฐานเหนือยอดมณฑป เมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2539 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาทรงตัดหวายลูกนิมิต เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2549
การก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ สร้างขึ้นครอบพระอุโบสถหลังเดิม โดยใช้เทคนิควิศวกรรมสมัยใหม่ โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายองค์หลวงพ่อพุทธโสธร และพระพุทธรูปทั้ง 18 องค์ งานออกแบบด้านสถาปัตยกรรม โดยนายประเวศ ลิมปรังษี งานด้านวิศวกรรมโครงสร้าง โดย สำนักออกแบบนายอรุณ ชัยเสรี
ศิลปะภายในพระอุโบสถหลวงพ่อพุทธโสธร ประกอบด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยรอบนับตั้งแต่พื้นพระอุโบสถ เสา ผนัง และเพดานจะบรรจุเรื่องราวให้เป็นแดนแห่งทิพย์ เป็นเรื่องราวของสีทันดรมหาสมุทร จตุโลกบาล สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พรหมโลก ดวงดาว และจักรวาล โดยตำแหน่งของดวงดาวบนเพดาน กำหนดตำแหน่งตรงกับวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2539 ณ เวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพิธียกยอดฉัตรทองคำ
อนึ่ง ในการสร้างพระอุโบสถใหม่ครั้งนั้น กรมศิลปากรได้ทำการกะเทาะปูนปั้นที่หุ้มองค์หลวงพ่อโสธรออก ทำให้พบว่าหลวงพ่อโสธรเป็นหินทราย 11 ชิ้น ศิลปะอยุธยาตอนต้น โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระพรหมคุณาภรณ์ (จิรปุญโญ ด.เจียม กุลละวณิชย์) อดีตเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร และดร.สุวิชญ์ รัศมิภูติ อดีตอธิบดีกรมศิลปากร ได้ร่วมเป็นพยานบุคคลในการปฏิบัติงานกะเทาะปูนหลวงพ่อโสธรด้วย
พระพุทธโสธรและพระพุทธรูป 18 องค์ งานเทศกาลประจำปี
เทศกาลประจำปีหลวงพ่อโสธรจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกจัดช่วงเดือน 5 เรียกว่า งานกลางเดือน 5 เริ่มจัดงานตั้งแต่วันขึ้น 14-15 ค่ำ ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 5 รวม 3 วัน ครั้งที่สองจัดช่วงเดือน 12 เรียกว่า งานกลางเดือน 12 เริ่มจัดงานตั้งแต่วันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 รวม 5 วัน โดยจัดร่วมกับงานกาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
และท่านเจ้าของภาพทุกท่านที่เราได้เอามานำเสนอในสกู๊ปนี้
หนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม แว่น วัดอรุณ รายงาน
.......
ประมวลปาฏิหาริย์แห่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ (คลิ๊ก)
บารมีเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี คุ้มครองชีวิต (คลิ๊ก)
ประมวลปาฏิหาริย์แห่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ (คลิ๊ก)
ปาฏิหาริย์อีกครั้ง เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ ช่วยชีวิตคุณยายวัย 73 ปี ให้รอดตายอย่างน่าอัศจรรย์ใจ (คลิ๊ก)พระธรรมรัตนดิลก เจ้าอาวาสวัดอรุณ พระผู้สร้างเหรียญพระเจ้าตากชาววัดอรุณ หนึ่งเดียวในตำนานประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี (คลิ๊ก)
สแกน QR Code เพื่อการเที่ยวชมความจริงของวัดอรุณราชวรารามแบบจำลองความจริงทั้งพระบถ
QR Code เพื่อการสำรวจความงามของวัดอรุณทั้งพระอาราม.
QR 碼以探索黎明寺的美麗。整個修道院。